วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553
วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553
วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
พระเจ้ามีจริงหรือปล่าว?
คำตอบที่ดีที่สุด - เลือกโดยเพื่อนๆ ที่ช่วยกันโหวต
เมื่อถามว่าพระเจ้ามีจริงหรือ? เราสามารถแบ่งผู้ตอบออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มที่ไม่ทราบ
2. กลุ่มที่ไม่เชื่อว่าพระเจ้ามี
3. กลุ่มที่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง
ต่อไปนี้ เราจะพิจารณาเหตุผลของทั้ง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ไม่เชื่อและกลุ่มที่เชื่อ โดยตัดกลุ่มที่ไม่ทราบออกไป
พวกที่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า จะมีเหตุผลสนับสนุนเพียงข้อเดียว คือ มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ ฯลฯ จึงไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง แต่หากพิจารณาให้ดีก็จะเห็นว่าเหตุผลนี้ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอเพราะ
1. สิ่งที่มองไม่เห็น ไม่ใช่ว่าไม่มีจริง เช่น ลม, อากาศ, ออกซิเจน ฯลฯ
2. สิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยสัมผัสทั้ง 5 ไม่ใช่ว่าไม่มีจริง เช่น ไฟฟ้า, ชีวิต, วิญญาณ ฯลฯ
3. คนที่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า แต่ทำไมเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง (ทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็นเหมือนกัน)
4. คนที่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า แต่ทำไมเชื่อว่านรก-สวรรค์มีจริง (ทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็นเหมือนกัน)
5. คนที่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า แต่ทำไมจึงนับถือศาสนา เพราะการนับถือศาสนานั้นสะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับว่ามีพระเจ้า
พวกที่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง จะมีเหตุผลสนับสนุน 2 ประการใหญ่ ๆ คือ
1. ข้อพิสูจน์จากนอกพระคัมภีร์ (ใช้ตรรก, เหตุและผล) ขออธิบายย่อ ๆ เพียง 6 ประการ
1.1 ในสามัญสำนึกของมนุษย์มันฟ้องว่าต้องมีผู้สร้างอย่างแน่นอน เช่น เมื่อเราเกิดปัญหาชีวิต เราพยายามแสวงหาที่พึ่ง เพราะในใจของเรามันฟ้องว่าต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่มีอำนาจเหนือเรา
1.2 เมื่อมีผลก็ต้องมีเหตุ (เมื่อมีควันก็ต้องมีไฟ) เพราะชีวิตของคนเรานั้นสั้นจึงไม่สามารถรู้ได้ด้วยตนเอง เราจึงต้องอาศัยเหตุและผลของคนอื่นมาพิจารณาประกอบ เช่น เมื่อเราเห็นโต๊ะ ฯลฯ เราสรุปได้ทันทีว่าโต๊ะ (ผล) ตัวนี้ต้องมีผู้สร้าง (เหตุ) ถึงแม้ว่าเราจะไม่ทราบว่าใครสร้างก็ตามที
1.3 ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีที่มา เช่น เมื่อเราหลงเข้าไปในป่า เห็นกระท่อมหลังหนึ่งปลูกอยู่ เราสรุปได้ทันทีว่ากระท่อมหลังนี้ต้องมีผู้สร้าง เช่นเดียวกัน เมื่อเราเกิดขึ้นมาในโลก เราเห็นว่าทุกสิ่งมันมีอยู่แล้ว เราสามารถสรุปได้ 2 ข้อ คือ (1) เกิดขึ้นเองโดยบังเอิญ ไม่มีผู้สร้าง (2) มีผู้สร้างอย่างแน่นอน
1.4 ทุกสิ่งในโลกนี้ “มีแบบ” ก็แสดงว่าต้องมี “ผู้ออกแบบ” (มีผู้สร้าง)
1.5 ทุกสิ่งในโลกนี้ “มีระเบียบ” ก็แสดงว่าต้องมี “ผู้ออกระเบียบ” (มีผู้สร้าง)
1.6 ทุกสิ่งในโลกนี้ “มีสติปัญญาอยู่เบื้องหลัง” ก็แสดงว่าต้องมี “ผู้เป็นเจ้าของปัญญา” (มีผู้สร้าง)
2. ข้อพิสูจน์จากพระคัมภีร์ ขออธิบายย่อ ๆ เพียง 4 ประการ
2.1 พระคัมภีร์ยืนยันว่า พระเจ้ามีจริง ยะซายา 44:6-8, ยอหน 1:1-5, ฮีบรู 1:1-3
2.2 พระเยซูคริสต์ถูกฆ่าตาย เพราะยืนยันว่า พระเจ้ามีจริง
2.3 พวกอัครทูตส่วนใหญ่ถูกฆ่าตาย เพราะยืนยันว่า พระเจ้ามีจริง
2.4 พวกคริสเตียนประมาณสองพันล้านคนต่างก็ยืนยันว่า พระเจ้ามีจริง
เมื่อถามว่าพระเจ้ามีจริงหรือ? เราสามารถแบ่งผู้ตอบออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มที่ไม่ทราบ
2. กลุ่มที่ไม่เชื่อว่าพระเจ้ามี
3. กลุ่มที่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง
ต่อไปนี้ เราจะพิจารณาเหตุผลของทั้ง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ไม่เชื่อและกลุ่มที่เชื่อ โดยตัดกลุ่มที่ไม่ทราบออกไป
พวกที่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า จะมีเหตุผลสนับสนุนเพียงข้อเดียว คือ มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ ฯลฯ จึงไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง แต่หากพิจารณาให้ดีก็จะเห็นว่าเหตุผลนี้ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอเพราะ
1. สิ่งที่มองไม่เห็น ไม่ใช่ว่าไม่มีจริง เช่น ลม, อากาศ, ออกซิเจน ฯลฯ
2. สิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยสัมผัสทั้ง 5 ไม่ใช่ว่าไม่มีจริง เช่น ไฟฟ้า, ชีวิต, วิญญาณ ฯลฯ
3. คนที่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า แต่ทำไมเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง (ทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็นเหมือนกัน)
4. คนที่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า แต่ทำไมเชื่อว่านรก-สวรรค์มีจริง (ทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็นเหมือนกัน)
5. คนที่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า แต่ทำไมจึงนับถือศาสนา เพราะการนับถือศาสนานั้นสะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับว่ามีพระเจ้า
พวกที่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง จะมีเหตุผลสนับสนุน 2 ประการใหญ่ ๆ คือ
1. ข้อพิสูจน์จากนอกพระคัมภีร์ (ใช้ตรรก, เหตุและผล) ขออธิบายย่อ ๆ เพียง 6 ประการ
1.1 ในสามัญสำนึกของมนุษย์มันฟ้องว่าต้องมีผู้สร้างอย่างแน่นอน เช่น เมื่อเราเกิดปัญหาชีวิต เราพยายามแสวงหาที่พึ่ง เพราะในใจของเรามันฟ้องว่าต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่มีอำนาจเหนือเรา
1.2 เมื่อมีผลก็ต้องมีเหตุ (เมื่อมีควันก็ต้องมีไฟ) เพราะชีวิตของคนเรานั้นสั้นจึงไม่สามารถรู้ได้ด้วยตนเอง เราจึงต้องอาศัยเหตุและผลของคนอื่นมาพิจารณาประกอบ เช่น เมื่อเราเห็นโต๊ะ ฯลฯ เราสรุปได้ทันทีว่าโต๊ะ (ผล) ตัวนี้ต้องมีผู้สร้าง (เหตุ) ถึงแม้ว่าเราจะไม่ทราบว่าใครสร้างก็ตามที
1.3 ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีที่มา เช่น เมื่อเราหลงเข้าไปในป่า เห็นกระท่อมหลังหนึ่งปลูกอยู่ เราสรุปได้ทันทีว่ากระท่อมหลังนี้ต้องมีผู้สร้าง เช่นเดียวกัน เมื่อเราเกิดขึ้นมาในโลก เราเห็นว่าทุกสิ่งมันมีอยู่แล้ว เราสามารถสรุปได้ 2 ข้อ คือ (1) เกิดขึ้นเองโดยบังเอิญ ไม่มีผู้สร้าง (2) มีผู้สร้างอย่างแน่นอน
1.4 ทุกสิ่งในโลกนี้ “มีแบบ” ก็แสดงว่าต้องมี “ผู้ออกแบบ” (มีผู้สร้าง)
1.5 ทุกสิ่งในโลกนี้ “มีระเบียบ” ก็แสดงว่าต้องมี “ผู้ออกระเบียบ” (มีผู้สร้าง)
1.6 ทุกสิ่งในโลกนี้ “มีสติปัญญาอยู่เบื้องหลัง” ก็แสดงว่าต้องมี “ผู้เป็นเจ้าของปัญญา” (มีผู้สร้าง)
2. ข้อพิสูจน์จากพระคัมภีร์ ขออธิบายย่อ ๆ เพียง 4 ประการ
2.1 พระคัมภีร์ยืนยันว่า พระเจ้ามีจริง ยะซายา 44:6-8, ยอหน 1:1-5, ฮีบรู 1:1-3
2.2 พระเยซูคริสต์ถูกฆ่าตาย เพราะยืนยันว่า พระเจ้ามีจริง
2.3 พวกอัครทูตส่วนใหญ่ถูกฆ่าตาย เพราะยืนยันว่า พระเจ้ามีจริง
2.4 พวกคริสเตียนประมาณสองพันล้านคนต่างก็ยืนยันว่า พระเจ้ามีจริง
วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
อย่าได้เบียดเบียน
อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงโมทนาในส่วนกุศลนี้
พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดนี้ด้วยเทอญ
พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดนี้ด้วยเทอญ
วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
เรื่องของกาลามสูตร*แปลว่า พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล
แปลว่า พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล
หนึ่ง ฟังตามกันมา อย่าได้เชื่อ
สอง ฟังกันทุกเมื่อ เชื่อไม่ได้
สาม ตื่นข่าวป่าวมา อย่าเชื่อไป
สี่ อย่าไว้ใจแท้ แม้ตำรา
ห้า อย่าเชื่อเพราะเดา เอาเองเล่น
หก คาดคะเนกะเกณฑ์ ไว้ล่วงหน้า
เจ็ด อย่านึกตรึกตรอง ตามอุรา
แปด เพราะว่าต้องตาม ธรรมเนียมตน
เก้า อย่าเชื่อเพราะเพื่อ ควรเชื่อเขา
สิบ ครูเราแท้แท้ ตั้งแต่ต้น
ก็จักเชื่อไม่ได้น้ำใจคน จงเชื่อผลเชื่อเหตุ สังเกตเอย
หนึ่ง ฟังตามกันมา อย่าได้เชื่อ
สอง ฟังกันทุกเมื่อ เชื่อไม่ได้
สาม ตื่นข่าวป่าวมา อย่าเชื่อไป
สี่ อย่าไว้ใจแท้ แม้ตำรา
ห้า อย่าเชื่อเพราะเดา เอาเองเล่น
หก คาดคะเนกะเกณฑ์ ไว้ล่วงหน้า
เจ็ด อย่านึกตรึกตรอง ตามอุรา
แปด เพราะว่าต้องตาม ธรรมเนียมตน
เก้า อย่าเชื่อเพราะเพื่อ ควรเชื่อเขา
สิบ ครูเราแท้แท้ ตั้งแต่ต้น
ก็จักเชื่อไม่ได้น้ำใจคน จงเชื่อผลเชื่อเหตุ สังเกตเอย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)